มงคล: พันธะที่มิอาจละเลย

มงคล: พันธะที่มิอาจละเลย


ณ โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ขนาดใหญ่ในจังหวัดชลบุรี มงคล ไม่ได้เป็นเพียง “หนุ่มโรงงาน” ธรรมดา เขายืนหยัดเป็นหัวหน้าแผนกผู้ผลิตมานานถึงห้าปีเต็ม ด้วยสถิติการทำงานที่ขาวสะอาด ไร้รอยด่างพร้อยเรื่องขาด ลา หรือมาสาย ความสามารถอันโดดเด่นทำให้เขาคว้ารางวัลพนักงานดีเด่นติดต่อกัน จนเป็นที่โปรดปรานของ ผู้จัดการแผนก ซึ่งมักจะเข้ามาพูดคุยอย่างสนิทสนม

ชีวิตของมงคลถูกขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างฐานะให้ครอบครัวที่อยู่ต่างจังหวัด เขายอมแลกหยาดเหงื่อกับเวลา เพื่อให้สายพานการผลิตไม่เคยหยุดนิ่ง

สัญญาณเตือนจากทางไกล
บ่ายแก่ ๆ ของวันจันทร์แรกในเดือนนั้น ขณะที่เสียงเครื่องจักรกลบทุกสิ่ง มงคลก้มหน้าทำงานอย่างมีสมาธิ… จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ตืด ตืด ตืด

เขาเหลือบมองหน้าจอ—เป็นน้องชายที่บ้านต่างจังหวัด

“ฮัลโหล เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม?” มงคลรับสายด้วยรอยยิ้มแห่งความคิดถึง

ปลายสายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและตื่นตระหนก “พี่! พ่อ… พ่อโดนรถชน! ตอนนี้อยู่ ICU ในโรงพยาบาลแล้ว พี่รีบกลับมาด่วนเลยนะครับ! พวกเราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว!”

รอยยิ้มของมงคลแข็งค้าง “ห้ะ! พ่อโดนรถชน! อาการหนักแค่ไหน!?” ความห่วงใยพุ่งพล่านจนเสียงเขาสั่นเครือ

“หมอยังไม่ออกมาบอกอะไรเลยครับ พ่ออยู่ในห้องไอซียู… พี่รีบกลับมาเป็นเสาหลักให้พวกเราทีเถอะครับ”

มงคลวางสาย หัวใจเขาร่วงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขารีบเดินตามหาผู้จัดการแผนกเพื่อขอลาพักฉุกเฉิน แต่หัวหน้าเขากำลังประชุมสำคัญกับผู้บริหารระดับสูง หากรอก็อาจสายเกินไปแล้วสำหรับคนที่เขารักที่สุด

“ถ้าต้องเลือกระหว่างหน้าที่กับชีวิตพ่อ… คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว”

เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เดินไปฝากงานกับลูกน้องคนสนิท “น้อง… พี่ฝากบอกผู้จัดการด้วยนะว่าพี่มีธุระด่วนที่สุดในชีวิต… พ่อพี่ประสบอุบัติเหตุ ต้องรีบกลับไปดูอาการด่วนมาก” พูดจบ เขาก็ไม่รอคำตอบใด ๆ คว้ากระเป๋า และมุ่งหน้าสู่สถานีขนส่งทันที

ความวุ่นวายที่โรงงาน
ที่โรงงาน ผู้จัดการแผนกกลับจากห้องประชุมด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า เขากำลังจะเรียกมงคลมาหารือเรื่องการปรับแผนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้นกว่าสองเท่า แต่กลับหามงคลไม่เจอ โทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย

“มงคลไปไหน!?” ผู้จัดการถามลูกน้องคนสนิทของมงคลด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ

“อ๋อ… พี่มงคลกลับบ้านต่างจังหวัดไปแล้วครับพี่ บอกว่ามีธุระด่วนมาก ๆ” ลูกน้องตอบด้วยความหวาดกลัว

“อะไรนะ! กลับบ้านไปเฉย ๆ โดยไม่แจ้งใครเนี่ยนะ!?” ความโกรธของผู้จัดการปะทุขึ้นทันที เพราะเขารู้ดีว่าความรับผิดชอบของมงคลนั้นใหญ่หลวงเกินกว่าจะหายตัวไปง่าย ๆ แต่ถึงอย่างไร งานก็ต้องเดินต่อ เขาจำต้องระงับความโกรธแล้วเข้าไปจัดการแก้ไขสถานการณ์ และทำงานแทนมงคลเพื่อให้ยอดผลิตตามเป้าหมาย

สองวันผ่านไป… สี่วันผ่านไป… มงคลยังคงขาดการติดต่อ โรงงานผลิตประสบปัญหาการปรับระบบครั้งใหญ่เพราะไม่มี “หัวงาน” มือดีอยู่ประจำที่ ผู้จัดการแผนกวิตกกังวลจนแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ก็ไม่สามารถทิ้งโรงงานไปตามตัวเขาได้เลย

เผชิญหน้ากับคำพิพากษา
ในที่สุด วันที่ห้า มงคลก็กลับมาที่โรงงาน ด้วยท่าทางอิดโรยแต่ดวงตาฉายแววโล่งอก เพราะอาการของคุณพ่อพ้นขีดอันตรายแล้ว และถูกส่งตัวกลับมารักษาต่อที่บ้านได้

ทว่ายังไม่ทันที่มงคลจะได้ทักทายใคร ลูกน้องคนสนิทก็วิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พี่! งานเข้าใหญ่แล้ว พี่หายไปติดต่อไม่ได้เลย ผู้จัดการโรงงานเรียกพบด่วนที่สุด!”

“ขอบใจมาก… พอดีที่บ้านสัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี เลยติดต่อใครไม่ได้เลย” มงคลตอบอย่างรู้ดีว่าข้ออ้างนั้นฟังไม่ขึ้น ในใจเขายอมรับว่าทำผิดกฎ แต่ในอีกด้านหนึ่ง… เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจในการตัดสินใจของตัวเองเลย

เขาเดินเข้าไปในห้องผู้จัดการโรงงานอย่างสงบ แต่ในแววตากลับมีความขุ่นเคืองซ่อนอยู่

“สวัสดีครับพี่” มงคลทักทายผู้จัดการทั้งสองด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“คุณหายไปไหนมาหลายวัน! ติดต่อไม่ได้เลย! คุณรู้ไหมว่าโรงงานเราวุ่นวายแค่ไหนช่วงที่คุณไม่อยู่! ทำไมคุณถึงไม่แจ้งหัวหน้าคุณก่อนที่จะหนีไป!” ผู้จัดการโรงงานเปิดฉากด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมและเกรี้ยวกราด

“ผมขอโทษครับ… พ่อผมประสบอุบัติเหตุรถยนต์หนักมาก ต้องเข้าห้องไอซียู ผมจำเป็นต้องรีบกลับไปดูอาการครับ” มงคลพยายามตอบอย่างใจเย็นที่สุด

“คุณเป็นหมอเหรอ!?” ผู้จัดการโรงงานตวาดเสียงดัง “คุณไปแล้วคุณจะช่วยอะไรได้! หมอเขาก็รักษาพ่อคุณได้อยู่แล้ว! ทำไมคุณไม่เคลียร์งานที่โรงงานให้เรียบร้อยก่อนที่จะไป!? คุณ มงคล!”

คำตอบสุดท้ายของมงคล [จุดดราม่า]
เมื่อได้ยินคำถามที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันและไร้ความเห็นใจ ความอดทนของมงคลก็ขาดสะบั้นลงทันที ความไม่พอใจและบาดแผลทางใจที่สะสมมาตลอดหลายวันปะทุออกมาในรูปของคำพูดที่เด็ดเดี่ยว

“ผมต้องขอโทษจริง ๆ ครับ ที่ทำให้โรงงานวุ่นวายและผมไม่ได้ทำตามกฎ” มงคลตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความแข็งกร้าว “และจริงอยู่… ผมไม่ใช่หมอ ผมกลับไปเร็วหรือช้าก็ไม่ได้ช่วยให้พ่อผมหายเร็วขึ้น”

เขาหยุดมองหน้าผู้จัดการโรงงานตรง ๆ แล้วกล่าวต่อด้วยถ้อยคำที่บาดลึก “แต่ท่านผู้จัดการ… ลองคิดตามผมนะครับ หากเป็นคุณพ่อของผู้จัดการเอง ท่านจะทำเหมือนผมไหม?”

“ผมต้องรีบกลับไป เพราะผมมีพ่อคนเดียว! หากพ่อหรือคนในครอบครัวผมเป็นอะไรไป มันไม่สามารถแก้ไขได้ และผมจะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าหรือบอกลาท่านเลย!”

มงคลเงียบไปครู่หนึ่ง หายใจเข้าลึก ๆ แล้วชี้ไปที่เบื้องหลังของตัวเอง “ส่วนโรงงาน… แม้ไม่มีผม ทางโรงงานก็ยังสามารถหาคนมาทดแทนทำงานแทนผมได้ แต่คนในครอบครัวผม… ไม่มีใครสามารถมาทดแทนได้ครับ”

“ผมจะขอรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด… ด้วยการที่ผมจะลาออกครับ”

คำพูดของมงคลทำให้ผู้จัดการโรงงานและผู้จัดการแผนกถึงกับ อึ้งและตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าพนักงานที่แสนภักดีและขยันขันแข็งคนนี้จะกล้าตอบและตัดสินใจเด็ดขาดถึงเพียงนี้

“ผมไม่ต้องการให้คุณทำแบบนี้นะ มงคล! งานสมัยนี้หายากนะ คิดดูให้ดี ๆ !” ผู้จัดการโรงงานกล่าวอย่างมีโทสะปนกับความเสียดาย

“ไม่เป็นไรครับผม” มงคลตอบด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจอีกครั้ง “ผมต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีให้กับคนอื่นต่อไป”

มงคลเดินออกจากห้องไปทันที มุ่งหน้าสู่ฝ่ายบุคคลเพื่อยื่นใบลาออกในวันนั้น และเดินทางกลับบ้านเกิดสู่ต่างจังหวัด

เขาลาออกจากความเร่งรีบ วุ่นวาย และไร้หัวใจของการเป็นหนุ่มโรงงาน เพื่อกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำไร่ ทำนา ทำสวน และที่สำคัญที่สุด… ได้อยู่เคียงข้างครอบครัวทุกวันอย่างมีความสุข

ข้อคิด: สังคมการทำงานควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเคารพสิทธิ์และความเห็นใจซึ่งกันและกัน หาก “ผลผลิต” มีค่ากว่า “ชีวิต” มนุษย์คนหนึ่งก็พร้อมจะเลือก “พันธะที่มิอาจละเลย” เหนือ “หน้าที่” ที่ทดแทนกันได้เสมอ

Author: omrga

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *