Captain America: Brave New World เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการบนจอใหญ่ของ แซม วิลสัน (แอนโทนี แม็คกี) ในฐานะกัปตันอเมริกาคนใหม่ หลังได้รับมอบโล่จากสตีฟ โรเจอร์ส และสานต่อเรื่องราวจากซีรีส์ The Falcon and the Winter Soldier ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามที่จะกลับไปสู่กลิ่นอายของภาพยนตร์แนวแอ็คชัน-ระทึกขวัญเชิงการเมือง (Political Thriller) ที่ทำให้ Captain America: The Winter Soldier ประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ดูเหมือนว่าความทะเยอทะยานนั้นจะยังไปไม่ถึงจุดหมายที่ตั้งไว้
![]()
คะแนนโดยรวมและกระแสวิจารณ์
ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ “ผสมปนเป” (Mixed) ค่อนไปทาง “น่าผิดหวัง” จากนักวิจารณ์และผู้ชมส่วนใหญ่ โดยมีคะแนนโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับกลางถึงต่ำสำหรับมาตรฐานของ MCU:
IMDB: ประมาณ $6.0 – 6.1/10
Rotten Tomatoes: ประมาณ $49% – 50% (Certified Rotten)
CinemaScore (ผู้ชม): B- (คะแนนต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ MCU)
กระแสหลักชี้ว่าตัวหนัง ขาดความกล้าหาญ (Brave) ในการนำเสนอประเด็นใหม่ ๆ และการดำเนินเรื่องยัง ซ้ำซาก (Routine) เกินไป
บทบาทของตัวละครและการแสดง
แซม วิลสัน/กัปตันอเมริกา (แอนโทนี แม็คกี)
แม็คกียังคงทุ่มเทให้กับบทบาทกัปตันอเมริกาคนใหม่ โดยพยายามถ่ายทอดความรู้สึกของ “มนุษย์ธรรมดา” ที่ต้องแบกรับสัญลักษณ์ของประเทศและอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนทางการเมือง อย่างไรก็ตาม บทภาพยนตร์ถูกวิจารณ์ว่า ไม่ได้ส่งเสริมให้ตัวละครมีความโดดเด่น หรือมีพลังดึงดูดเท่าที่ควร บทพูดของแซมบางครั้งดูพยายามที่จะเป็น “ผู้นำ” มากเกินไป จนทำให้ขาดความเป็นธรรมชาติที่เคยมีในซีรีส์
ประธานาธิบดี ธาดเดียส “ธันเดอร์โบลต์” รอสส์ (แฮร์ริสัน ฟอร์ด)
แฮร์ริสัน ฟอร์ด คือ จุดที่ได้รับคำชมมากที่สุด ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ฟอร์ดรับบทเป็นประธานาธิบดีรอสส์ได้อย่างมีเสน่ห์และเปี่ยมอำนาจ แม้จะมีบทที่ค่อนข้างเป็นตัวร้าย แต่การแสดงที่ดุดันและเป็นธรรมชาติของฟอร์ดช่วยยกระดับฉากที่เขาปรากฏตัวขึ้นได้มาก
ตัวร้าย: แซมมวล สเติร์นส์ (The Leader)
The Leader (รับบทโดย ทิม เบลค เนลสัน) ตัวร้ายที่กลับมาจาก The Incredible Hulk (2008) มีบทบาทสำคัญในการชักใยแผนการร้าย โดยเป็นตัวการเบื้องหลังที่ใช้ความสามารถทางสติปัญญาในการสร้างความวุ่นวาย แต่ถูกวิจารณ์ว่า ขาดความน่าเกรงขาม และบทบาทของเขายังรู้สึก “สุก ๆ ดิบ ๆ” จนเกินไป
เนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่อง (Spoiler Alert!)
Captain America: Brave New World มุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองระดับโลก เมื่อประธานาธิบดีรอสส์ได้เปิดตัวโครงการลับที่เกี่ยวข้องกับ “ซูเปอร์โซลเยอร์” และเทคโนโลยีควบคุมจิตใจ
ประเด็นสำคัญและไคลแม็กซ์
การเผชิญหน้ากับรัฐบาล: แซม วิลสันพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งกับอำนาจรัฐบาล โดยเฉพาะกับประธานาธิบดีรอสส์ ที่มีวาระซ่อนเร้นและเป้าหมายที่ดูอันตราย
Red Hulk ออกอาละวาด: ฉากไคลแม็กซ์ที่สำคัญที่สุดคือการที่ ประธานาธิบดีรอสส์แปลงร่างเป็น Red Hulk ในที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟน ๆ รอคอยมานาน การเผชิญหน้าระหว่างกัปตันอเมริกา (แซม วิลสัน) และ Red Hulk ถือเป็นฉากแอ็คชันที่ดึงดูดความสนใจที่สุด
Falcon คนใหม่และ Sabra: โจอาควิน ทอร์เรส ได้ก้าวขึ้นมาเป็น Falcon คนใหม่ พร้อมชุดปีกที่ได้รับการอัปเกรด ขณะที่ ซาบราห์ (Sabra) ตัวละครจากอิสราเอล เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะพันธมิตรที่นำไปสู่การขยายจักรวาลที่กว้างขึ้น
คำวิจารณ์ด้านบทภาพยนตร์
ปัญหาหลักของภาพยนตร์คือ บทที่ดูสับสน และ อัดแน่นด้วยองค์ประกอบมากเกินไป (Overstuffed) มันพยายามที่จะเป็นหนังแอ็คชันการเมืองที่จริงจัง แต่กลับจบลงด้วยการเป็นเหมือน “สะพานเชื่อมเรื่องราว” ที่มีหน้าที่ปูทางให้กับภาพยนตร์และซีรีส์อื่น ๆ ของ MCU ในอนาคต (โดยเฉพาะ Avengers: The Kang Dynasty และ Avengers: Secret Wars) การถ่ายซ่อมที่เกิดขึ้นหลายครั้งยังส่งผลให้ฉากบางส่วนดูไม่ต่อเนื่องและ CG ที่ถูกเร่งทำ ก็ดูด้อยกว่ามาตรฐาน
ตัวอย่างหนัง
สรุป
Captain America: Brave New World ถือเป็นความพยายามของ Marvel ที่จะพาแฟรนไชส์กลับสู่แนวแอ็คชันภาคพื้นดินที่ได้รับความนิยม แต่กลับทำได้เพียง “พอใช้ได้” เท่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่น่าจดจำด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของ แฮร์ริสัน ฟอร์ด ในบท Red Hulk และการก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของ แอนโทนี แม็คกี แต่โดยรวมแล้ว ตัวหนังกลับขาดความเฉียบคมและความตื่นเต้นที่เคยมีในยุคทองของกัปตันอเมริกา
หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ MCU ที่ต้องการดูพัฒนาการของ แซม วิลสัน และการปรากฏตัวครั้งแรกของ Red Hulk หนังเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้ แต่ถ้าคาดหวังความเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ระดับมาสเตอร์พีซเหมือน Civil War หรือ The Winter Soldier อาจจะต้องเผชิญกับความผิดหวังครับ
