คำว่า “ข้าวผัดกะเพราสูตรโบราณ” หรือ “ผัดกะเพราดั้งเดิม” นั้นหมายถึงการผัดกะเพราที่เน้นเครื่องปรุงน้อยอย่าง และเน้นความหอมฉุนของพริก กระเทียม และใบกะเพราเป็นหลัก โดยไม่มีส่วนผสมอื่น ๆ เช่น ถั่วฝักยาว แครอท หรือหอมหัวใหญ่แบบในสูตรสมัยใหม่ค่ะ
สูตรนี้จะให้รสชาติเผ็ดร้อน หอมถึงเครื่อง และผัดแบบแห้ง ๆ
ข้าวผัดกะเพราสูตรโบราณ
สูตรนี้คือการ ผัดกะเพราเนื้อสัตว์แบบดั้งเดิม แล้วนำมาคลุกกับข้าวสวย (บางสูตรก็ทำโดยราดบนข้าวสวยก็ได้เช่นกัน)
ส่วนผสม
วิธีทำ
- เตรียมเครื่องผัด:
- โขลก พริกขี้หนู กับ กระเทียม รวมกันให้แหลกหยาบ (สูตรโบราณเน้นความหอมฉุนของพริกกระเทียมที่โขลก ไม่ได้ใช้แค่สับ)
- ผัดเครื่องให้หอม:
- ตั้งกระทะให้ร้อนจัด ใส่น้ำมัน (หากใช้น้ำมันหมูจะหอมเป็นพิเศษ)
- นำพริกกระเทียมที่โขลกไว้ลงไปผัดด้วย ไฟแรง จนหอมฉุน และมีสีเข้มขึ้นเล็กน้อย
- ผัดเนื้อสัตว์:
- ใส่เนื้อสัตว์สับลงไปผัดในกระทะ ใช้ตะหลิวขยี้เนื้อสัตว์ไม่ให้ติดกัน ผัดจนเนื้อสัตว์เริ่มสุก
- (หากชอบผัดแบบแห้งสนิท ให้ผัดจนน้ำในเนื้อสัตว์ระเหยเกือบหมด)
- ปรุงรส:
- ปรุงรสด้วย น้ำปลา และ น้ำตาลทราย เล็กน้อย
- เติม ซีอิ๊วดำหวาน (ถ้าชอบ) เพื่อให้สีสวยน่าทาน
- ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันและแห้งพอดี (สูตรโบราณส่วนใหญ่มักจะ ไม่ใส่ซอสหอยนางรม และ ไม่เติมน้ำ หรืออาจเติมแค่เล็กน้อยให้พอคลุกขลิกเท่านั้น)
- ใส่ใบกะเพราและคลุกข้าว:
- ใส่ใบกะเพราลงไปทั้งหมด
- นำข้าวสวยใส่ลงในกระทะ ผัดคลุกเคล้ากับเนื้อกะเพราอย่างรวดเร็วด้วยไฟแรง จนข้าวและผัดกะเพราเข้ากันดี และใบกะเพราสลดเล็กน้อย
- เคล็ดลับ: การผัดเร็ว ๆ ด้วยไฟแรงจะช่วยให้ข้าวไม่แฉะและคงกลิ่นหอมของกะเพราไว้
- พร้อมเสิร์ฟ:
- ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อม ไข่ดาวกรอบ ๆ (แบบไข่แดงยางมะตูม) โรยหน้าด้วยพริกไทยป่นเล็กน้อย (ถ้าชอบ)
ลักษณะเด่นของ “สูตรโบราณ” ที่แตกต่างจากสมัยใหม่:
- เน้นพริกและกระเทียม: โขลกรวมกันและผัดให้หอมฉุน
- ผัดแห้ง: ไม่เน้นน้ำซอสหรือน้ำขลุกขลิก
- เครื่องปรุงน้อย: หลัก ๆ คือ น้ำปลา น้ำตาล และซีอิ๊วดำ (บางสูตรใช้แค่น้ำปลาอย่างเดียว) ไม่ใส่ถั่วฝักยาว หอมใหญ่ หรือผักอื่น ๆ (นอกจากใบกะเพรา)
- เน้นกลิ่นกะเพราแดง: หากใช้กะเพราแดง จะได้กลิ่นที่ฉุนและเผ็ดร้อนกว่ากะเพราขาวค่ะ